วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
นิทานดาว
ดาวสิงโต
กลุ่มดาวสิงโต เป็นกลุ่มดาวอันดับที่ห้าของกลุ่มดาวจักรราศี เป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในแนวสุริยวิถีที่สังเกต และจดจำได้ง่าย โดยรูปสิงโตของกลุ่มดาวสิงโต จะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ดาวในส่วนหัวของสิงโต จะเรียงกันเป็นรูปเครื่องหมายคำถามกลับด้าน (Reversed Question Mark) โดยมีดาว ฤกษ์สุกสว่างคือ ดาวเรกูลัส (Regulus, -Leo) ซึ่งจะอยู่ตรงตำแหน่งหัวใจของสิงโต จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า ดาวหัวใจสิงห์ ซึ่งเป็นดาวหนึ่งในสี่ของดาว ราชาทั้งสี่ (The Four Royal Stars) เราสามารถเห็นกลุ่มดาวสิงโต ขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ราวเที่ยงคืนเดือนมีนาคม
นิทานดาว สิงโต เป็นราชาหรือเจ้าแห่งสัตว์ป่าของโลก ออกล่าเหยื่อรบกวนชาวบ้าน จึงถูกฆ่าโดยเฮอร์คิวลิส (Hercules) แต่เนื่องจากสิงโตตัวนี้ มีหนังหนาและเหนียว ฟันแทงไม่เข้า จึงถูกเฮอร์คิวลิสฆ่า โดยล็อคคอด้วยมือเปล่า (Headlock) จากนั้นเฮอร์คิวลิสก็ถลกหนัง โดยใช้เล็บของสิงโตเอง จากนั้น ก็เอาหนังมาทำเครื่องแต่งกาย และเกราะ ทำให้เฮอร์คิวลิสดูน่าเกรงขาม จากนั้น Selene เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ได้นำสิงโตขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวจักราศี โดยที่สิงโตจะวิ่งหนีเฮอร์คิวลิสตลอดเวลา โดยสิงโตอยู่สูงสุดบนท้องฟ้า ในขณะที่เฮอร์คิวลิสกำลังขึ้น และตกในขณะที่เฮอร์คิวลิส อยู่สูงสุดบนท้องฟ้าเสมอ
นิทานดาว สิงโต เป็นราชาหรือเจ้าแห่งสัตว์ป่าของโลก ออกล่าเหยื่อรบกวนชาวบ้าน จึงถูกฆ่าโดยเฮอร์คิวลิส (Hercules) แต่เนื่องจากสิงโตตัวนี้ มีหนังหนาและเหนียว ฟันแทงไม่เข้า จึงถูกเฮอร์คิวลิสฆ่า โดยล็อคคอด้วยมือเปล่า (Headlock) จากนั้นเฮอร์คิวลิสก็ถลกหนัง โดยใช้เล็บของสิงโตเอง จากนั้น ก็เอาหนังมาทำเครื่องแต่งกาย และเกราะ ทำให้เฮอร์คิวลิสดูน่าเกรงขาม จากนั้น Selene เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ได้นำสิงโตขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวจักราศี โดยที่สิงโตจะวิ่งหนีเฮอร์คิวลิสตลอดเวลา โดยสิงโตอยู่สูงสุดบนท้องฟ้า ในขณะที่เฮอร์คิวลิสกำลังขึ้น และตกในขณะที่เฮอร์คิวลิส อยู่สูงสุดบนท้องฟ้าเสมอ
วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552
phoneOne เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด ตอบสนองทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์ แนะนำกลุ่ม M series : Multimedia phone เป็นได้ทั้ง ทีวี, กล้องดิจิตอล, วีดีโอ รอ
phoneOne M702 มือถือเปลี่ยนเสียงพูด
phoneOne M702 โทรศัพท์มือถือดูทีวีได้ ที่สามารถใช้งานได้ 2 เบอร์พร้อมกัน ตัวเครื่องมีกล้องถ่ายรูปมาให้ 2 ชุดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้สามารถถ่ายรูปตัวเองไปพร้อมกับดูหน้าจอไปในคราวเดียวกันได้เลย phoneOne M702 ยังมีฟังก์ชั่นเปลี่ยนเสียงสนทนา (Voice Simulation) ไว้ทำให้เพื่อนแปลกใจกับเสียงของคุณที่สามารถเปลี่ยนไปเป็น ผู้หญิง, ผู้ชาย หรือแม้แต่เสียงเด็ก และที่ขาดไม่ได้คือฟังค์ชั่นบลูทูธที่จะทำให้การขับขี่ปลอดภัย ไม่เป็นอุปสรรคต่อการติดต่อ phoneOne M702 ฟังก์ชั่นเพียบขนาดนี้ จำหน่ายในราคาเพียง 7,990 บาท ที่เอไอเอสช็อป ร้านเทเลวิซ และตัวแทนจำหน่าย MFA ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1175 กด 8 หรือ http://www.phoneonemobile.com/
phoneOne M702 โทรศัพท์มือถือดูทีวีได้ ที่สามารถใช้งานได้ 2 เบอร์พร้อมกัน ตัวเครื่องมีกล้องถ่ายรูปมาให้ 2 ชุดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้สามารถถ่ายรูปตัวเองไปพร้อมกับดูหน้าจอไปในคราวเดียวกันได้เลย phoneOne M702 ยังมีฟังก์ชั่นเปลี่ยนเสียงสนทนา (Voice Simulation) ไว้ทำให้เพื่อนแปลกใจกับเสียงของคุณที่สามารถเปลี่ยนไปเป็น ผู้หญิง, ผู้ชาย หรือแม้แต่เสียงเด็ก และที่ขาดไม่ได้คือฟังค์ชั่นบลูทูธที่จะทำให้การขับขี่ปลอดภัย ไม่เป็นอุปสรรคต่อการติดต่อ phoneOne M702 ฟังก์ชั่นเพียบขนาดนี้ จำหน่ายในราคาเพียง 7,990 บาท ที่เอไอเอสช็อป ร้านเทเลวิซ และตัวแทนจำหน่าย MFA ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1175 กด 8 หรือ http://www.phoneonemobile.com/
phoneOne ขอแนะนำโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด phoneOne
phoneOne M901
phoneOne M901 ดู TV ผ่านมือถือไม่พลาดละครดัง ง่ายกับการใช้งานผ่านระบบสัมผัสหน้าจอ ล้ำสมัยกับ Finger Gesture ง่ายๆด้วยปลายนิ้ว ท่องโลกที่ไม่มีวันหลับผ่าน Wi-Fi ล้ำสมัยและสุดเท่ห์กับการเปลี่ยนเพลงขณะฟังผ่านระบบ motion sensor เพียงเขย่าไปทางขวาเครื่องก็จะเล่นเพลงถัดไปที่อยู่ใน list ง่ายๆ เมื่อกลับเพลงก่อนหน้าก็เขย่ามาทางซ้าย มีดีไซน์ที่ดู premium มาพร้อมกับ stylus & Analogue TV antenna ที่คล้าย accessories ไม่ต้องเสียบไว้ในตัวเครื่องไม่ต้องกลัวตกเทรน กับหน่วยความจำที่มากมายในตัวเครื่องกว่า 80 MB รองรับ micro SD card phoneOne M901 ยังรองรับ A2DP ฟังเพลงผ่าน Bluetooth stereo สะดวกและทันสมัยไม่ผิดกฎหมายโทรไม่ขับอีกด้วย phoneOne M901 เป็นอีกรุ่นที่ phoneOne ขอใส่ฟังก์ชั่นให้ใช้อย่างจุใจ ในราคา 9,990 บาท สนใจหาซื้อได้เอไอเอสช็อป ร้านเทเลวิซ และตัวแทนจำหน่าย MFA ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร 1175 กด 8 หรือ http://www.phoneonemobile.com/
phoneOne M901 ดู TV ผ่านมือถือไม่พลาดละครดัง ง่ายกับการใช้งานผ่านระบบสัมผัสหน้าจอ ล้ำสมัยกับ Finger Gesture ง่ายๆด้วยปลายนิ้ว ท่องโลกที่ไม่มีวันหลับผ่าน Wi-Fi ล้ำสมัยและสุดเท่ห์กับการเปลี่ยนเพลงขณะฟังผ่านระบบ motion sensor เพียงเขย่าไปทางขวาเครื่องก็จะเล่นเพลงถัดไปที่อยู่ใน list ง่ายๆ เมื่อกลับเพลงก่อนหน้าก็เขย่ามาทางซ้าย มีดีไซน์ที่ดู premium มาพร้อมกับ stylus & Analogue TV antenna ที่คล้าย accessories ไม่ต้องเสียบไว้ในตัวเครื่องไม่ต้องกลัวตกเทรน กับหน่วยความจำที่มากมายในตัวเครื่องกว่า 80 MB รองรับ micro SD card phoneOne M901 ยังรองรับ A2DP ฟังเพลงผ่าน Bluetooth stereo สะดวกและทันสมัยไม่ผิดกฎหมายโทรไม่ขับอีกด้วย phoneOne M901 เป็นอีกรุ่นที่ phoneOne ขอใส่ฟังก์ชั่นให้ใช้อย่างจุใจ ในราคา 9,990 บาท สนใจหาซื้อได้เอไอเอสช็อป ร้านเทเลวิซ และตัวแทนจำหน่าย MFA ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร 1175 กด 8 หรือ http://www.phoneonemobile.com/
ว่าด้วยความรักราศีเมถุน
ความรัก ราศีเมถุน
ชาวเมถุนเป็นผู้ที่มีความคล่องแคล่วว่องไว ปราดเปรียว ปรู๊ดปร๊าด บริหารเวลาเก่ง เวลาของเขาเป็นเงินเป็นทองไปหมด ชาวเมถุนเป็นคนที่ไม่อยู่นิ่งเฉย ต้องหยิบจับ หาอะไรทำอยู่เรื่อยๆจะคอยศึกษาหาความรู้ใหม่ๆใส่ตัวอยู่เสมอ ชาวเมถุนเป็นคนธาตุลม เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความเฉลียวฉลาด เป็นคนที่มีความสามารถในการสื่อสาร การพูดจาที่ดี น่าฟัง เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ หัวไวและเป็นคนร่าเริง ชาวเมถุนเป็นคนที่พร้อมจะเปลี่ยนแฟนได้เสมอ ถ้าเขาได้เจอคนใหม่ที่มีความน่าสนใจกว่า ฉลาด มีความเพียบพร้อมมากกว่าเขา ชาวเมถุนจะไม่ให้อิสระในการคบหากันมากนัก และในเรื่องบางเรื่องเช่น เรื่องบนเตียงเขาจะเรื่องมากและพิถีพิถันมาก
ความโรแมนติกแบบราศีเมถุน
ชาวเมถุนเป็นคนร่าเริง รักสนุกและชอบเสี่ยง มีอารมณ์แปรปรวน เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดังนั้นคงต้องใช้ความอดทนสูงหากจะรักชาวเมถุน ชาวเมถุนชื่นชอบการผจญภัยและท่องเที่ยว ถ้าคุณสามารถนำความโรแมนติกมารวมกับการผจญภัยได้ ก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างคะแนนความรักได้ชาวคนคู่เป็นคนที่มีการไตร่ตรองที่ดี เป็นที่ปรึกษาที่ดีให้แก่กันและกันในยามที่มีปัญหามากกว่าที่จะมานั่งทะเลาะกัน
ความรักของราศีเมถุน
การพบปะคบหากับชาวเมถุน จะมีความหลากหลายและไม่มีคำว่าน่าเบื่อ ชาวเมถุนจะคบหาคนแบบที่มีความตื่นตัวและว่องไว และเมื่อเจอคนที่ใช่ก็จะรู้ได้ทันทีและก็จะเข้ากันได้อย่างง่ายดาย คนที่จะมาคบกับชาวเมถุนได้นั้นจะต้องเป็นคนที่มีความคิด?ับไว มีปฏิภาณไหวพริบดี ทันคน และถ้าคุณต้องการจะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนขี้หึงหรือไม่ก็ลองคบกับชาวเมถุนดู เพราะชาวเมถุนจะทำให้คุณหึงได้เสมอ เพราะเขาเป็นคนที่มีเสน่ห์และมีคนมาเกาะแกะมากมาย ในการคบกับชาวเมถุนคุณควรปล่อยให้เขามีอิสระบ้างและคุณก็ไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะถ้าคุณคือตัวจริงของเขา เขาจะซื่อสัตย์กับคุณตลอดไป
ความสัมพันธ์แบบชาวราศีเมถุน
ความรักของชาวเมถุนเปรียบเสมือนการผจญภัยอย่างแท้จริง ชาวเมถุนมักจะตั้งคำถามในใจเสมอว่า จะสามารถหาคนคนนั้น คนที่เป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ความสุขกับเขาได้ตลอดไปได้นั้นมีจริงหรือ ถ้ามีจริง เขาก็จะรอเพื่อที่จะได้พบกับคนๆนั้น ในยามที่ชาวเมถุนมีรัก เขาจะเป็นคนรักที่ดูแลเอาใจใส่ดีมากๆ ทำทุกๆอย่างเพื่อให้คนรักมีความสุขและบ่อยครั้งที่เขาจะรู้สึกว่า เคว้งคว้างอยู่ในความรักที่มีเขาเป็นฝ่ายให้แต่ฝ่ายเดียว ดังนั้นเขาจึงต้องการคนที่จะมาอยู่เคียงข้างเขาได้และดีกับเขาบ้างแค่นั้นเอง
SEX กับราศีเมถุน
ชาวเมถุนไม่ค่อยมีอารมณ์ในเรื่อง Sex มากมายนัก แต่จะมีความรู้สึกในเรื่องนี้เมื่ออยู่ในบรรยากาศดีๆ และเหมาะสมเท่านั้น Sex เปรียบเสมือนกีฬาอย่างหนึ่งของชาวเมถุน เขาจะค้นหาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอในแบบที่ถูกใจ ชาวเมถุนให้ความสำคัญกับการสัมผัสและเสียง และต้องการหาสิ่งที่ดีที่สมบูรณ์แบบให้กับชีวิตรักของเขา แล้วอะไรหล่ะที่ชาวราศีเมถุนต้องการ ใครสักคนที่สามารถตามเขาทัน เข้าใจเขา รู้ใจและพร้อมจะผจญภัยกับเขาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มีความเ?ลียว?ลาด ร่าเริงและเป็นเพื่อนที่ดีของเขาได้ และสำหรับคนรักนั้นก็เช่นกัน แต่อาจจะไม่ต้องฉลาดเฉลียวมากมายนัก แต่ขอให้เป็นคนที่สามารถทำให้เขาสบายใจได้ในยามที่เขาทุกข์ใจ
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
เราได้ประโยชน์อะไรจากการเรียนคอมพิวเตอร์
1. ทันสมัย / ทันเหตุการณ์ / ทันข้อมูลข่าวสาร / ทันโลก ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก
2. ช่วยให้การเรียน การทำงาน ทันสมัยและไรับความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ได้เรียนรู้จากสื่อที่ทันสมัยที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่า โปรแกรม CAI
3. เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม ช่วยในการค้นคว้าหาความรู้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
4. ช่วยรับ - ส่งข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว
5. ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น เกม ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ร้องเพลง
6. ช่วยสร้างงานศิลปะ ออกแบบชิ้นงานได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. ประโยชน์ทางตรง
ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้โดยตรงคือคอมพิวเตอร์ทำงานได้เที่ยงตรง รวดเร็ว ไม่เหน็ดเหนื่อย ช่วยผ่อนแรงมนุษย์ ในด้านต่าง ๆเช่น ด้านการคำนวณ พิมพ์งาน บันทึกข้อมูล ประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานในแวดวงใน หากนำคอมพิวเตอร์เข้าช่วยงาน จะช่วยแบ่งเบาภาระงานได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ
2. ประโยชน์ทางอ้อม
คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ช่วยในการเรียนรู้ให้ความปันเทิงความรู้ ช่วยงานบันเทิงพัฒนางานด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น เป็นต้น
คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ช่วยในการเรียนรู้ให้ความปันเทิงความรู้ ช่วยงานบันเทิงพัฒนางานด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น เป็นต้น
กลอนทะลึ่ง ขำๆๆอย่าคิดมาก
มือขยับ จับบรรจงตรง ที่หมายน้องว่าอาย
กลัวเจ็บจึงขัดขืนน้องไม่เคย
พี่ยังทำสุดกล้ำกลืนน้องยังตื่น บอกพี่เบา เขายังกลัวพุ่งกระฉูดน่าสยอง นองด้วยเลือดช่างดุเดือดเสียงครางดังไปทั่วโธ่น้องเจ็บ น้องปวด ไปทั้งตัวมาบีบมั่ว สิวหัวช้าง ข้างแก้มเราค่อย ๆ พี่ ยกเบา ๆ เขาจะตื่นเดี๋ยวห้องอื่นได้ยินจะสิ้นหวังค่อยๆ เอา ค่อยๆ เข้าๆ พี่ระวังเสียงเตียงดัง ลูกๆ ตื่น อดพอดีระทึกใจใครวะ เสียงน่าลุ้นทำว้าวุ่นดื่นดึก คึกเต็มที่โอ้ที่แท้ ข้างห้องเรา เก็บของยกทีวีแอบย้ายหนีค่าเช่าเท่านั้นเองใต้แสงไฟ เราสองต้องใกล้ชิดแนบสนิท ชิดแนบแน่น ทั้งแขนขากอดอัดรัด ฟัดเหวี่ยงอยู่ทุกคราใช้แล้วติด เป็นหนักหนา หมอนข้างเรามีหญิงสาว กับชายหนุ่ม อยู่ในห้องสองต่อสอง ชายจับแท่ง แกว่งให้สั่นชายสั่งหญิง ให้อม ในปากพลันหญิงดื้อรั้น ชายเร่งเร้า ด้วยอารมณ์จับโคนไว้ เอาปลายแหย่ ให้เข้าปากหญิงกระดาก หุบปากนิ่ง เอาหน้าก้มชายก็บ่น เหตุผลใด ถึงไม่อมต้องขู่ข่ม ให้หายดื้อ กันหรือไรพูดดีดี ก็ไม่ฟัง ต้องบังคับ เอามือจับปากให้อ้า คว้าแท่งใส่ ใช้ปากอมเธอไม่เคย [...]
กลัวเจ็บจึงขัดขืนน้องไม่เคย
พี่ยังทำสุดกล้ำกลืนน้องยังตื่น บอกพี่เบา เขายังกลัวพุ่งกระฉูดน่าสยอง นองด้วยเลือดช่างดุเดือดเสียงครางดังไปทั่วโธ่น้องเจ็บ น้องปวด ไปทั้งตัวมาบีบมั่ว สิวหัวช้าง ข้างแก้มเราค่อย ๆ พี่ ยกเบา ๆ เขาจะตื่นเดี๋ยวห้องอื่นได้ยินจะสิ้นหวังค่อยๆ เอา ค่อยๆ เข้าๆ พี่ระวังเสียงเตียงดัง ลูกๆ ตื่น อดพอดีระทึกใจใครวะ เสียงน่าลุ้นทำว้าวุ่นดื่นดึก คึกเต็มที่โอ้ที่แท้ ข้างห้องเรา เก็บของยกทีวีแอบย้ายหนีค่าเช่าเท่านั้นเองใต้แสงไฟ เราสองต้องใกล้ชิดแนบสนิท ชิดแนบแน่น ทั้งแขนขากอดอัดรัด ฟัดเหวี่ยงอยู่ทุกคราใช้แล้วติด เป็นหนักหนา หมอนข้างเรามีหญิงสาว กับชายหนุ่ม อยู่ในห้องสองต่อสอง ชายจับแท่ง แกว่งให้สั่นชายสั่งหญิง ให้อม ในปากพลันหญิงดื้อรั้น ชายเร่งเร้า ด้วยอารมณ์จับโคนไว้ เอาปลายแหย่ ให้เข้าปากหญิงกระดาก หุบปากนิ่ง เอาหน้าก้มชายก็บ่น เหตุผลใด ถึงไม่อมต้องขู่ข่ม ให้หายดื้อ กันหรือไรพูดดีดี ก็ไม่ฟัง ต้องบังคับ เอามือจับปากให้อ้า คว้าแท่งใส่ ใช้ปากอมเธอไม่เคย [...]
สุรา
อันสุราเมรัย ใครเสพติดพาชีวิตมืดมน จนฉิบหายหนึ่งสินทรัพย์ ของตนนั้น พลันวอดวายสองอาจตาย ด้วยทะเลาะ เพราะความเมาสามเจ็บป่วย ด้วยโรคาพยาธิสี่คนตำหนิ นินทาพาอับเฉาห้าหน้าด้าน หนักหนาเวลาเมาหกโง่เขลา ปัญญาหด หมดสิ้นเอย
กลอนความรัก
รัก………. แท้..เป็น………………ตำนานรัก………. สิ้นลมปราน..เป็น…….บทประพันธ์รัก………. ไม่แปรผัน..เป็น………นิยายรัก………. จนวันตาย..เป็น………นิทานรัก………. ตลอดกาล..เป็น………ละครรัก………. อยู่ทุกตอน..เป็น………ละครน้ำเน่ารัก………. ไม่เคยเก่า..เป็น………จริงช่วงแรกรัก………. ในความแปลก..เป็น….คำฮิตรัก………. ด้วยชีวิต..เป็น………..ลิเกรัก………. ไม่โลเล..เป็น………….ความฝันรัก………. เธอนิรันด์..เป็น……….ชื่อเพลงรัก………. นะตัวเอง..เป็น………..เด็กอมมือรัก………. ซื่อสัตย์..เป็น………….คำลวงรัก………. หมดทรวง..เป็น……….คำติดปากรัก………. เธอมาก..เป็น………….คำฮอตรัก………. เดียวตลอด..เป็น…….. ไปไม่ได้!!!!! 555
วิธีท่องจำ ก-ต เวอร์ชั่นใหม่
ก.กิ๊ก หาไม่ยาก ไม่ลำบากแค่ม่อไว้
ข.ไข่ ไขหัวใจ ไช้คารมนิยมกัน
ฃ.ขวด ชวนดวดเหล้า เมื่อกิ๊กเราสนิทกัน
ค.ควาย ใช้เรียกกัน เมื่อแฟนท่านเป็นกิ๊กเรา
ฅ.ฅน ค้นหาไป ค้นหาใคร ถูกใจเขา
ฆ.ระฆัง ดังปลุกเร้า ให้ใจเราเส่ากระสั่น
ง.งู อยู่บนหัว มีกันทั่ว ตัวเราท่าน
จ.จูบ จูบเธอนั่น สุดระส่ำ สำราญใจ
ฉ.ฉิ่ง หญิงกิ๊กคู่ เพลินเพลินอยู่ มิสนไข่
ช.ช้าง ช่างประไร เรื่องหัวใจ ไม่เกี่ยวกัน
ซ.โซ่ อย่าเซ่อซ่า แฟนเดินมา พากิ๊กหลบพลัน
ฌ.เฌอ บอกเธอนั่น แค่เพื่อนกัน มิมีไร
ญ.หญิง นั่นโปรดรู้ ผู้ชายเจ้าชู้ พิสูจน์ดูได้
ฎ.ชฎา พาสวมใส่ ต่อหน้าแฟนไซร้ จำต้องใส่ชฎา
ฏ.ปฏัก รักแอบซ่อน สาววัยละอ่อน ร่อนหัวใจมา
ฐ.ฐาน มิพานช้า รากฐานแน่นหนา พาแฟนเชื่อใจ
ฒ.เฒ่า เธอไม่โง่ อุตส่าห์โม้ หลายนาที
ณ.ณรงค์ จงต่อสู้ บอกให้รู้ ให้ชัดเจน
ด.เด็ก ที่เธอเห็น เป็นเพียงเพื่อนโปรดเชื่อที
ต.เต่า เธอไม่โง่ อุตส่าห์โม้ หลายนาที
รู้จักกับสารส้มระงับกลิ่นกาย
สารส้ม หรือ Alum มาจากภาษาละตินคำว่า.. "Alumen" แปลว่า.."สารที่ทำให้หดตัว (astringent)" ซึ่งเป็นเกลือเชิงซ้อนของสารประกอบที่มีธาตุอะลูมิเนียม และซัลเฟต เป็นส่วนประกอบหลักแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ - อะลูมิเนียมซัลเฟต ลักษณะเป็นก้อนผงสีขาว- โพแทสเซียมอะลั่ม ลักษณะเป็นผลึกใสไม่มีสี- แอมโมเนียมอะลั่ม ลักษณะเป็นผลึกใสไม่มีสีทุกประเภทสามารถนำไปใช้ประโยชน์แบบเดียวกันได้กลิ่นที่เกิดจากแบคทีเรียเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรามีกลิ่นตัว ด้วยคุณสมบัติของสารส้มที่ช่วยลดกลิ่นและแบคทีเรีย จึงสามารถนำสารส้มมาใช้กำจัดกลิ่นตัวได้ 100 % นานถึง 24 ชั่วโมง และยังถ่วงการเกิดกลิ่นได้ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงอีกด้วย โดยตัวของสารส้มไม่มีอันตรายต่อผิวหนัง เพราะไม่ได้กลับเข้าสู่ผิวหนัง จึงไม่เกิดอาการแพ้ในปัจจุบันนิยมนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัวทาที่รักแร้กันมากเพราะไม่ทำให้รักแร้ดำ มีหลายแบบ เช่น แบบแท่ง, แบบผงแป้ง, แบบโรลออน และแบบสเปรย์ ซึ่งมีข้อดีแตกต่างกันไป แล้วแต่ความเหมาะสมที่ผู้ใช้จะเลือกซื้อ สิ่งที่ควรดูก่อนตัดสินใจซื้อ- กรณีที่ไม่ใช่ผลึกสารส้ม 100% (มีส่วนประกอบอื่นๆ เช่น สี และกลิ่นด้วย)ควรเลือกที่มีส่วนประกอบของ อะลูมิเนียมซัลเฟต โพแทสเซียมอะลัม หรือแอมโมเนียมอะลัม ในปริมาณที่มากที่สุด เพื่อประสิทธิภาพที่มั่นใจได้ - กรณีที่เป็นโรลออน สเปรย์ และผงแป้ง ควรตรวจเช็คสภาพของผลิตภัณฑ์ วันผลิต หรือวันหมดอายุทุกครั้ง แม้ว่าสารส้มจะช่วยระงับกลิ่น แตก็ไม่ได้กำจัดเชื้อราดังนั้นแม้ตัวไม่เหม็นก็ต้องอาบน้ำ ไม่อย่างนั้นอาจมีโรคผิวหนังประเภทอื่นๆ เกิดขึ้นแทน
วาซาบิ (wasabi) เพื่อสุขภาพ
ถ้าบอกว่ามีสีเขียวทั้งเผ็ดและฉุนขึ้นจมูก ใช้รับประทานคู่กับปลาดิบ คุณคงต้องนึกถึงวาซาบิเป็นแน่ บางคนอาจจะร้องยี้ด้วยไม่ชอบรสชาติของมัน แต่รู้หรือไม่ว่าในความฉุนหรือเผ็ดนั้นมีคุณประโยชน์แฝงอยู่มากมาย สารในวาซาบิที่ให้รสเผ็ดและกลิ่นฉุนนั้น มีสรรพคุณในการยับยั้งการเจริญเติบโต ของจุลินทรีย์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ และยังพบสาร Isothiocyanate (ITCs) ซึ่งมีส่วนช่วยการยับยั้งการเจริญเติบโตของเอ็นไซม์ ที่ก่อให้เกิดหินปูนบนฟัน และยังมีฤทธิ์ต้านมะเร็งที่ปอด ลำไส้ใหญ่ ตับ หลอดอาหารและเต้านม อีกด้วย ที่มา :คอลัมน์ Living Beware นิตยสารใกล้หมอ Health Well- being ปีที่ 31 ฉบับที่ 2 เดือนมีนาคม 2550"วาซาบิ" : http://th.wikipedia.org/wiki/วาซาบิ"ระบบข้อมูลพืชผัก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ : วาซาบิ" : http://www.agric-prod.mju.ac.th/vegetable/File_link/wasabi.pdf"วาซาบิมีประโยชน์ต่อสุขภาพ" :
ชาร้อนยับยั้งอัลไซเมอร์
ข่าวดีสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ทุกท่าน ที่ต่อไปไม่ต้องทานยาเยอะๆ อีกต่อไปแล้วเพราะแค่คุณดื่มชาวันละแก้ว ก็สามารถยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้
ดร. เอ็ด โอเคลโล่ แห่งศูนย์วิจัยสมุนไพร มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ได้รายงานผลการวิจัยว่า การที่คุณดื่มชาเขียวหรือชาดำวันละ 1 ถ้วยทุกวัน สามารถยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะในชาเขียว และชาดำ มีสารที่ช่วยยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้การดื่มชาเขียวยังสามารถป้องกันการเกิดปฏิกิริยาเบต้า-ซีเครเทส (Beta-secretase) ที่เป็นขั้นตอนในการผลิตตะกอนโปรตีนในสมองอันเป็นสาเหตุของการป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ แต่คุณจะต้องดื่มชาเขียวอย่างน้อย 1 อาทิตย์ถึงจะเห็นผลดี แต่หากคุณดื่มชาดำเพียงแค่ 1 วันคุณก็สามารถเห็นผลได้เร็วกว่าการดื่มชาเขียวหลายเท่า
ถึงแม้ว่าแพทย์จะไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายได้ แต่จากการวิจัยเรื่องการดื่มชา ก็สามารถยับยั้งและลดภาวะเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ราคาถูกผลข้างเคียงก็ไม่เกิด "ดื่มชาย่อมดีกว่าการรับประทานยานะคะ"
ดร. เอ็ด โอเคลโล่ แห่งศูนย์วิจัยสมุนไพร มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ได้รายงานผลการวิจัยว่า การที่คุณดื่มชาเขียวหรือชาดำวันละ 1 ถ้วยทุกวัน สามารถยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะในชาเขียว และชาดำ มีสารที่ช่วยยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้การดื่มชาเขียวยังสามารถป้องกันการเกิดปฏิกิริยาเบต้า-ซีเครเทส (Beta-secretase) ที่เป็นขั้นตอนในการผลิตตะกอนโปรตีนในสมองอันเป็นสาเหตุของการป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ แต่คุณจะต้องดื่มชาเขียวอย่างน้อย 1 อาทิตย์ถึงจะเห็นผลดี แต่หากคุณดื่มชาดำเพียงแค่ 1 วันคุณก็สามารถเห็นผลได้เร็วกว่าการดื่มชาเขียวหลายเท่า
ถึงแม้ว่าแพทย์จะไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายได้ แต่จากการวิจัยเรื่องการดื่มชา ก็สามารถยับยั้งและลดภาวะเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ราคาถูกผลข้างเคียงก็ไม่เกิด "ดื่มชาย่อมดีกว่าการรับประทานยานะคะ"
ดื่มไวน์ป้องกันฟันผุ
เคยรู้กันว่าดื่มไวน์ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ แต่ข้อมูลจากงานวิจัยของ ศ.กาเบรียลลา กาซซานี(Gabriella Gazzani)มหาวิทยาลัยพาเวีย(University of Pavia) ประเทศอิตาลี ในวารสารAmerican Journal of Agricultural and food Chemistry พบว่าการดื่มไวน์ขาว หรือไวน์แดงวันละ 1 แก้วเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ โรคเหงือก และช่วยรักษาอาการเจ็บคอ
เนื่องจากส่วนผสมในไวน์จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนตัวยับยั้งไมโครแบคทีเรียประเภท Streptococci ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฟันผุ และแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องทางเดินหายใจ และยังช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียชื่อ S.pyogenes ที่อาศัยอยู่ในช่องทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอาการเจ็บคอและเป็นไข้ได้
เนื่องจากส่วนผสมในไวน์จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนตัวยับยั้งไมโครแบคทีเรียประเภท Streptococci ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฟันผุ และแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องทางเดินหายใจ และยังช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียชื่อ S.pyogenes ที่อาศัยอยู่ในช่องทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอาการเจ็บคอและเป็นไข้ได้
การทำงานของคอมพิวเตอร์
1.อุปกรณ์ใดถือเป็นหม้อเเปลงไฟฟ้าของคอมพิวเตอร์ เเละมีหน้าที่อะไร
ตอบ Power Supply มีหน้าที่เป็น หม้อแปลงไฟฟ้าของระบบ เนื่องจาก อุปกรณ์ทุกชิ้น ที่ติดตั้งอยู่ภายใน PC นั้น จะต้องได้รับ ไฟฟ้าหล่อเลี้ยง มาจาก Power Supply ด้วยกันทั้งสิ้น
2.ภายใน PC จะประกอบด้วยส่วนต่างๆมากมาย เเต่ส่วนใดถือเป็นศูนย์กลางในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เเละมีหน้าที่การทำงานอย่างไร
ตอบ Microprocessor มีหน้าที่ในการจัดการคำสั่ง และการประมวลผลที่มีความซับซ้อน เป็นอย่างมาก ถ้าเราเปรียบ PC กับการทำงานของมนุษย์แล้ว เราจะเปรียบ CPU ได้เท่ากับเป็นสมองของมนุษย์เลยทีเดียว คุณคงจะคุ้นเคยกันดี เวลาเลือกซื้อ PC ที่มักจะต้องคำนึงถึง CPU กันก่อน ว่าจะเลือกใช้ Pentium III, Celeron หรือ Athlon ซึ่งนี่ก็คือตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็น ถึงความสำคัญของ CPU ได้เป็นอย่างดี
3.สิ่งเเรกที่ต้องคำนึงก่อนการเลือกซื้อ PC คือ? เพราะอะไร?
ตอบ Central Processing Unit (CPU) เพราะถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และเป็นศูนย์กลาง การทำงานของ PC ตัว CPU นั้น ถือว่าเป็น microprocessor ประเภทหนึ่ง ที่มีความสามารถ ในการจัดการคำสั่ง และการประมวลผลที่มีความซับซ้อน เป็นอย่างมาก
4.Power Supply ถือเป็นหม้อเเปลงของระบบ หาก Power Supply มีปัญหา จะเกิดอะไรขึ้นกับคอมพิวเตอร์ เเละมีวิธีการเเก้อย่างไร อธิบาย
ตอบ คอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากไม่มีการไหลเวียนของกระเเสไฟฟ้า
ตอบ Power Supply มีหน้าที่เป็น หม้อแปลงไฟฟ้าของระบบ เนื่องจาก อุปกรณ์ทุกชิ้น ที่ติดตั้งอยู่ภายใน PC นั้น จะต้องได้รับ ไฟฟ้าหล่อเลี้ยง มาจาก Power Supply ด้วยกันทั้งสิ้น
2.ภายใน PC จะประกอบด้วยส่วนต่างๆมากมาย เเต่ส่วนใดถือเป็นศูนย์กลางในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เเละมีหน้าที่การทำงานอย่างไร
ตอบ Microprocessor มีหน้าที่ในการจัดการคำสั่ง และการประมวลผลที่มีความซับซ้อน เป็นอย่างมาก ถ้าเราเปรียบ PC กับการทำงานของมนุษย์แล้ว เราจะเปรียบ CPU ได้เท่ากับเป็นสมองของมนุษย์เลยทีเดียว คุณคงจะคุ้นเคยกันดี เวลาเลือกซื้อ PC ที่มักจะต้องคำนึงถึง CPU กันก่อน ว่าจะเลือกใช้ Pentium III, Celeron หรือ Athlon ซึ่งนี่ก็คือตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็น ถึงความสำคัญของ CPU ได้เป็นอย่างดี
3.สิ่งเเรกที่ต้องคำนึงก่อนการเลือกซื้อ PC คือ? เพราะอะไร?
ตอบ Central Processing Unit (CPU) เพราะถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และเป็นศูนย์กลาง การทำงานของ PC ตัว CPU นั้น ถือว่าเป็น microprocessor ประเภทหนึ่ง ที่มีความสามารถ ในการจัดการคำสั่ง และการประมวลผลที่มีความซับซ้อน เป็นอย่างมาก
4.Power Supply ถือเป็นหม้อเเปลงของระบบ หาก Power Supply มีปัญหา จะเกิดอะไรขึ้นกับคอมพิวเตอร์ เเละมีวิธีการเเก้อย่างไร อธิบาย
ตอบ คอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากไม่มีการไหลเวียนของกระเเสไฟฟ้า
เกร็ดความรู้ (เด็กไม่เอาถ่าน คำนี้มีที่มาจากอะไร?)
เด็กไม่เอาถ่าน คำนี้มีที่มาจากอะไร?
เด็กที่วันๆ เอาแต่เล่นเกมส์ออนไลน์ ไม่อ่านหนังสือเรียน การบ้านก็ไม่ทำ งานบ้านก็ไม่เคยคิดจะหยิบจับช่วยเหลือพ่อแม่ ทานอาหารแล้วไม่รู้จักล้างจานชาม เหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างพฤติกรรมของ "เด็กไม่เอาถ่าน" ทำไมจึงเรียก "เด็กไม่เอาถ่าน" คาดกันว่าคำนี้มีที่มาจากคำเดิม คือ "เหล็กไม่เอาถ่าน" เพราะในสมัยก่อนนั้น การหลอมเหล็กหรือตีอาวุธจากเหล็กให้แข็งแกร่งนั้น จำเป็นต้องใช้ถ่านในการก่อเปลวไฟจนลุกโชน เพื่อให้ความร้อนแก่เหล็ก แล้วถ่านหรือคาร์บอนจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในเนื้อเหล็กหลังจากการถลุง ถ้าเหล็กไม่มีถ่านผสมอยู่เลย เหล็กนั้นจะมีคุณภาพต่ำ ไม่แข็งและเหนียวพอที่จะเรียกว่า เหล็กกล้า แต่หากมีมากเกินไปจะทำให้เหล็กเปราะ เหล็กที่ดีควรมีคาร์บอนเข้าไปผสมอยู่ประมาณ 0.1 - 1.8% ช่างตีอาวุธจากเหล็กในสมัยโบราณ จำเป็นต้องคิดค้นหากลวิธี เพื่อขจัดปัญหาดาบหัก เพราะแสดงถึงกรรมวิธีการผลิตที่ไม่ดีทำให้เหล็กไม่เอาถ่าน จนกลายเป็นคำพูดติดปาก เปรียบเทียบนิสัยคนกับอาวุธว่า "เหล็กไม่เอาถ่าน"
ที่มา : หนังสือ ภาษาคาใจ ภาค 3 ถอดรหัสภาษาไทยที่ยัง 'ค้างคาใจ'
เขียนโดย สังคีต จันทนะโพธิ
บิดาแห่งคอมพิวเตอร์
คงจะเป็นการดีที่จะกล่าวถึงที่มาหรือต้นตระกูลของเครื่องคอมพิวเตอร์ว่าเป็นมาอย่างไร เพื่อที่จะทำให้เราเข้าใจคอมพิวเตอร์มากขึ้น คอมพิวเตอร์มีวิวัฒนาการมาจากนิ้วมือมนุษย์ ที่ใช้นิ้วในการนับตัวเลข ใช้ไม้ขีดเขียนบนพื้นดิน หรือใช้ลูกหินมาเรียงต่อกัน ต่อมาได้มีการพัฒนาขึ้นด้วยการใช้เชือกรอยต่อกัน จัดเรียงให้เป็นระบบ (คล้ายกับลูกคิด) หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาเครื่องมือต่างๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการนับ ลักษณะใหญ่ที่คิดกันมักจะเป็นเครื่องยนต์ที่มีกลไก (Mechanics) ที่ประกอบด้วยฟันเฟื่อง รอกและคาน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่กึ่งอัตโนมัติ ที่สามารถคำนวณขั้นพื้นฐานได้ ไม่ว่าจะเป็น บวก ลบ คูณ หาร
ปี1822 ชาลส์ แบบเบจ (Charles Babbage) ได้ทำการออกแบบเครื่อง Difference Engine โดยได้
รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล แต่เครื่อง Difference Engine นี้สร้างไม่เสร็จ เพราะแบบเบจได้ค้นพบความไม่น่าเชื่อถือบางประการในการคำนวณ จึงล้มเลิก และไปคิดเครื่องใหม่ที่ชื่อว่า Analytical Engine ซึ่งประกอบด้วยหน่วยความจำ (Memory Unit) ที่สามารถจัดเก็บตัวเลขและนำไปคำนวณได้ ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องดังกล่าวยังสามารถพิมพ์ข้อมูลได้อัตโนมัติ สามารถนำเข้าข้อมูลด้วยบัตรเจาะรู (Punched Cards) และใช้ชุดคำสั่งในการควบคุม เครื่อง Analytical Engine นี้ยังมีฟังก์ชั่นหน้าที่หลายอย่างเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน ทำให้ ชาลส์ แบบเบจ (Charles Babbage) ถูกขนานนามให้เป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์ เป็นต้นมา
ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า "เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์"
คอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทำงานแทนมนุษย์ ในด้านการคิดคำนวณและสามารถจำข้อมูล ทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยังมีความสามารถในด้านต่างๆ อีกมาก อาทิเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่องและสามารถประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ได้
กำเนิด แอปเปิ้ล
ในปี 1976 หลังจาก Stephen Wozniak และ Steve Jobs ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ (Apple Computer) และได้นำเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ เครื่องแรกที่ประดิษฐ์จากโรงรถออกมาขายโดยใช้ชื่อว่า Apple I ในราคา 695 เหรียญ บริษัทแอปเปิลได้ผลิตเครื่อง Apple I ออกมาไม่มากนัก ภายในปีเดียวได้ผลิต Apple II ออกมาและรุ่นนี้เป็นรุ่นเปิดศักราชแห่งวงการไมโครคอมพิวเตอร์ และเป็นการสร้างมาตรฐาน ที่ไมโครคอมพิวเตอร์ ที่เกิดมาตามหลังทั้งหมด
ไมโครคอมพิวเตอร์ เครื่องแรกของโลก
เมื่อปี 1975 มีนิตยสารต่างประเทศฉบับหนึ่ง ชื่อว่า Popular Electronics ฉบับเดือน มกราคม ได้ลงบทความ เกี่ยวกับเครื่อง ไมโครโปรเซสเซอร์ เครื่องแรกของโลกที่มีชื่อว่า อัลแตร์ 8800 (Altair) ซึ่งทำออกมาเป็นชุดคิท โดยบริษัท MITS (Micro Insumentation And Telemetry Systems) ลักษณะของชุดคิท ก็คือ จะอยู่ในรูปของอุปกรณ์แต่ละชิ้นโดยให้ คุณนำไปประกอบขึ้นใช้เอง
บริษัท MITS ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1969 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำตลาดในด้านเครื่องคิดเลข แต่การค้าชลอตัวลง ประธานบริษัท ชื่อ H. Edword Roberts เห็นการไกล คิดเปิดตลาดใหม่ซึ่งจะขายชุดคิด คอมพิวเตอร์ ประมาณเอาไว้ว่าอาจขาย ได้ในจำนวนปีล่ะประมาณ 200-300 ชุด จึงให้ทิมงานออกแบบบและพัฒนาแล้วเสร็จก่อนถึงคริสต์มาส ในปี 1974 แต่เพิ่งมา ประกาศตัวในปีถัดไป สำหรับ CPU ที่ใช้คือ 8080 และคำว่า ไมโครคอมพิวเตอร์ จึงถูกเรียกใช้เป็นครั้งแรกเพื่อชุดคิทคอมพิวเตอร์ชุดนี้ชุดคิทของ อัลแตร์ นี้ประกอบด้วย ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ของบริษัท Intel มี เพาเวอร์ซัพพลาย มีแผงหน้าปัดที่ติดหลอดไฟ เป็นแถวมาให้เพื่อแสดงผล รวมถึงหน่วยความจำ 256 Byte ( แหม.. เหมือนของเล่นเราในสมัยนี้ จังงง ) นอกนั้น ยังมี สล๊อต (Slot) ให้เสียบอุปกร์อื่น ๆ เพิ่มได้ แต่ก็ทำให้ MITS ต้องผิดคาด คือ ภายใน เดือนเดียว มีจดหมายส่งเข้ามาขอสั่งซื้อเป็นจำนวนถึง 4,000 ชุดเลยทีเดียว
ด้วยชิป 8080 นี่เองได้เป็นแรงดลใจให้บริษัท ดิจิตอลรีเสิร์ช (Digital Research) กำเนิดระบบปฏิบัติการ(Operating System) ที่ชื่อว่า ซีพีเอ็ม(CP/M หรือ Control Program For Microcomputer) ขึ้นมา ในขณะที่ Microsoft ยังเพิ่งออก Microsoft Basic รุ่นแรกเท่านั้นเอง
บริษัท MITS ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1969 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำตลาดในด้านเครื่องคิดเลข แต่การค้าชลอตัวลง ประธานบริษัท ชื่อ H. Edword Roberts เห็นการไกล คิดเปิดตลาดใหม่ซึ่งจะขายชุดคิด คอมพิวเตอร์ ประมาณเอาไว้ว่าอาจขาย ได้ในจำนวนปีล่ะประมาณ 200-300 ชุด จึงให้ทิมงานออกแบบบและพัฒนาแล้วเสร็จก่อนถึงคริสต์มาส ในปี 1974 แต่เพิ่งมา ประกาศตัวในปีถัดไป สำหรับ CPU ที่ใช้คือ 8080 และคำว่า ไมโครคอมพิวเตอร์ จึงถูกเรียกใช้เป็นครั้งแรกเพื่อชุดคิทคอมพิวเตอร์ชุดนี้ชุดคิทของ อัลแตร์ นี้ประกอบด้วย ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ของบริษัท Intel มี เพาเวอร์ซัพพลาย มีแผงหน้าปัดที่ติดหลอดไฟ เป็นแถวมาให้เพื่อแสดงผล รวมถึงหน่วยความจำ 256 Byte ( แหม.. เหมือนของเล่นเราในสมัยนี้ จังงง ) นอกนั้น ยังมี สล๊อต (Slot) ให้เสียบอุปกร์อื่น ๆ เพิ่มได้ แต่ก็ทำให้ MITS ต้องผิดคาด คือ ภายใน เดือนเดียว มีจดหมายส่งเข้ามาขอสั่งซื้อเป็นจำนวนถึง 4,000 ชุดเลยทีเดียว
ด้วยชิป 8080 นี่เองได้เป็นแรงดลใจให้บริษัท ดิจิตอลรีเสิร์ช (Digital Research) กำเนิดระบบปฏิบัติการ(Operating System) ที่ชื่อว่า ซีพีเอ็ม(CP/M หรือ Control Program For Microcomputer) ขึ้นมา ในขณะที่ Microsoft ยังเพิ่งออก Microsoft Basic รุ่นแรกเท่านั้นเอง
ถึงยุค Z80
เมื่อเดือน พฤศจิกายนปี 1974 ได้มี วิศวกรของ Intel บางคนได้ออกมาตั้งบริษัทผลิตชิปเอง โดยมีชื่อว่า ไซล๊อก (Zilog) เนื่องจาก วิศวกรเหล่านี้ ได้มีส่วนร่ามในการผลิตชิป 8080 ด้วยจึงได้นำเอาเทคโนโลยีการผลิดนี้มาสร้างตัวใหม่ที่ดีกว่า มีชื่อว่า Z80 ยังคงเป็น ชิปขนาด 8 บิต เมื่อได้ออกสู่ตลาดได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้ปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่มีอยู่ใน 8080 จึงทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ หลายต่อหลายยี่ห้อ หันมาใช้ชิป Z80 กัน แม้แต่ซีพีเอ็ม ก็ยังถูกปรับปรุงให้มาใช้กับ Z80 นี้ด้วย *** แม้ในปัจุบันนี้ Z80 ยังคงถูกใช้งาน และนำไปใช้ ในการเรียนการสอน ไมโครโปรเซสเซอร์ ด้วย เช่น ชุดคิดหรือ Single Board Microcomputer ของ ETT, Sila เป็นต้น และ IC ตัวนี้ยังผลิตขาย อยู่ในปัจจุบัน ในราคา ไม่เกิน 100 บาท น่ะจะบอกให้)Computer เครื่องแรกของ IBMในปี 1975 ไอบีเอ็ม ได้ออกเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ เครื่องแรกออกมา แต่ทางไอบีเอ็มได้เรียกเครื่องนี้ว่าเป็น เทอร์มินัลแบบชาญฉลาด ที่สามารถโปรแกรมได้ (Intelligent Programmable Terminal) และตั้งชื่อรุ่นว่า Model 5100 มีหน่วยความจำ 16 Kbyte แล้วยังมีตัวแปลภาษาเบสิก แบบอินเตอร์พรีทเตอร์ (Interpreter) ด้วย และมี ไดรฟ์สำหรับใส่คาร์ทิดจ์เทปในตัว แต่ก็ยังขายไม่ดีเอามาก ๆ เลย เพราะว่าตั้งราคาไว้สูงมากถึง 9,000 เหรียญสหัฐในปลายปี 1980 บริษัทไอบีเอ็มได้เกิดแผนกเล็ก ๆ ขึ้นมาแผนกหนึ่งเรียกว่า Entry Systems Division ภายใต้ทีมของคนชื่อว่า ดอน เอสทริดจ์ (Don Estridge) และนักออกแบบอีก 12 คน โดยได้รับมอบหมายให้พัฒนาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของไอบีเอ็มโมเด็ล 5100 นั้นเอง โดยนำเอาจุดเด่นของเครื่อง ที่ขายดีมารวมไว้ในการออกแบบเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็ม และผลิตจำหน่ายได้ภายในปีเดียวภายใต้ชื่อว่า ไอบีเอ็มพีซี (IBM PC) ซึ่งถูกเปิดตัวในเดือน สิหาคม ปี 1981 และยอดขายของเครื่องพีซีก็ได้พุ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทอื่น ๆ จับตามอง
ก่อกำเนิด ไมโครโปรเซสเซอร์
เมื่อก่อนนั้น Intel เป็นบริษัทผลิตชิปไอซีแห่งหนึ่งที่ไม่ใหญ่โตมากนักเท่าในปัจจุบันนี้ เมื่อปี ค.ศ.1969 ได้สร้างความสะเทือน ให้กับวงการอิเล็คทรอนิคส์ โดยการออกชิปหน่วยความจำ(Memory)ขนาด 1 Kbyte มาเป็นรายแรกบริษัทบิสซิคอมพ์(Busicomp) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องคิดเลขของญี่ปุ่นได้ทำการว่าจ้างให้ Intel ทำการผลิตชิปไอซี ที่บิสซิคอมพ์เป็นคนออกแบบเองที่มีจำนวน 12 ตัว โครงการนี้ถูกมอบหมายให้นาย M.E. Hoff, Jr. ซึ่งเข้าตัดสินใจที่จะใช้วิธีการออกแบบชิปแบบใหม่ โดยสร้างชิปที่ให้ถูกโปรแกรมได้ หมายถึงว่าสามารถนำเอาชุดคำสั่งของการคำนวณไปเก็บไว้ใน หน่วยความจำก่อนแล้วให้ไอซีตัวนี้อ่านเข้ามาแปล ความหมาย และทำงานภายหลังในปี 1971 Intel ได้นำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า Intel 4004 ในราคา 200 เหรียญสหรัฐ และเรียกชิปนี้ว่าเป็น ไมโครโปรเซสเซอร์(Micro Processor) ก็เพราะว่า 4004 นี้เป็น CPU (Central Processing Unit) ตัวหนึ่ง ซึ่งมีขนาด 4.2 X 3.2 มิลลิเมตร ภายในประกอบด้วย ทรานซิสเตอร์ จำนวน 2250 ตัว และเป็น ไมโครโปรเซสเซอร์ขนาด 4 บิตหลังจาก 1 ปีต่อมา Intel ได้ออก ไมโครโปรเซสเซอร์ ขนาด 8 บิตออกมาโดยใช้ชื่อว่า 8008 มีชุดคำสั่ง 48 คำสั่ง และอ้างหน่วยความจำได้ 16 Kbyte ซึ่งทาง Intel หวังว่าจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดทางด้านชิปหน่วยความจำได้อีกทางหนึ่งเมื่อปี 1973 ทาง Intel ได้ออก ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ที่มีชุดคำสั่งพื้นฐาน 74 คำสั่งและสามารถอ้างหน่วยความจำได้ 64 Kbyte
เส้นทางสีขาว : เส้นทางสู่ความสำเร็จในการศึกษา
“เกิดมาเป็นคน พึงพยายามไปกว่าจะบรรลุความสำเร็จ”
ความสำเร็จย่อมเป็นเป้าหมายของการกระทำหรือกิจกรรมทุกอย่างเสมอ ความสำเร็จของการกระทำหรือกิจกรรมนั้น นอกจากจะเป็นตัวบ่งชี้ความสมบูรณ์หรือความสิ้นสุดของ การกระทำหรือกิจกรรมนั้นๆแล้วยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสามารถของผู้กระทำหรือผู้อำเนินการด้วย เช่น ความสำเร็จในการศึกษาแต่ละระดับ ก็เป็นสิ่งแสดงถึงความสามารถของผู้สำเร็จการศึกษาระดับต่ำ ก็แสดงว่ามีความสามารถระดับต่ำ ถ้าสำเร็จการศึกษาระดับสูงก็แสดงว่ามีความสามารถระดับสูงโดยเฉพาะเรื่องการศึกษานั้น ถือกันว่าเป็นเรื่องของสติปัญญา กล่าวคือ เรื่องการศึกษานั้นเป็นทั้งกระบวนการของกาสร้างปัญญา ดังที่มักจะพูดกันว่า “เพราะมีปัญญาดีจึงเรียนได้สูงๆ” หรือว่า “ยิ่งเรียนก็ยิ่งฉลาด”ดังนั้น จึงมักถือกันว่า ความสำเร็จทางการศึกษาเป็นตัวชี้วัดระดับสติปัญญาหรือความฉลาดของคน ในที่สุดทำให้เกิดค่านิยมผิดๆ ในเรื่องการศึกษาคือ การเอาความสำเร็จทางการศึกษามาเป็นตัวกำหนดคุณค่าของ คน ว่าใครสำเร็จการศึกษาระดับไหน? ใครจบการศึกษามาจากสถาบันใด?ฉะนั้น สิ่งที่น่าคิดและควรทำความเข้าใจให้ชดเจนคือความสำเร็จ !สติปัญญา !สถาบัน !
ความสำเร็จ หมายถึง การเสร็จสิ้นหรือการสิ้นสุดภารกิจที่จะพึงทำในเรื่องนั้นๆ ตามข้อกำหนดหรือตามเกณฑ์มี่กำหนดไว้ ความสำเร็จทางการศึกษาก็หมายถึงการเสร็จสิ้นภารกิจใน การศึกษาตามที่กำหนดไว้ในขั้นหรือระดับนั้น ตามกระบวนการของการศึกษานับแต่เริ่มเรียนจนถึงวัดผลเ รียบร้อย ผู้สำเร็จการศึกษาขึ้นไหนระดับไหน ก็ถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถขั้นนั้นระดับนั้น ซึ่งมักเรียกวันสั้น ๆ ว่า “มีความรู้” ขั้นนั้นระดับนั้น อันที่จริงความรู้ดังกล่าวนี้ ก็คือความรู้ที่ตามที่เรียนมาจากตำรา ไม่ใช่ความรู้ที่เราคิดค้นขึ้นเองหรือความรู้แปลกใหม่อะไร เป็นเพียงความรู้ที่เขากำหนดให้เรียนเท่านั้น ฉะนั้น ความรู้จากการเรียนหรือการศึกษานั้น ไม่ว่าจะเรียนมารู้มาเพียงไร ก็เป็นเพียงความรู้ตามเขาหรือตามที่เขารู้กันเท่านั้นข้อควรเข้าใจไว้ในขั้นนี้ก็คือ ความรู้จากการศึกษาเล่าเรียนนั้นเป็นเพียงรู้ตามเขา !รู้เท่าที่เขากำหนดให้รู้เท่านั้น !ยังมีความรู้ที่ควรรู้อีกมากมายที่เรายังไม่รู้และควรที่จะรู้ เพื่อความสมบูรณ์ของความรู้ที่จำเป็นสำหรับชีวิตของเราฉะนั้น สิ่งที่เราจะต้องทำควบคู่กันไปกับการเรียน ก็คือ การคิด การพิจารณาไตร่ตรองเพื่อสร้างความรู้ที่แท้จริง และความเฉลียวฉลาดให้แก่ตนเองคิด เพื่อให้เกิดความรู้ !พิจารณาไตร่ตรอง เพื่อให้เกิดความฉลาด !นั่นคือ ความสำเร็จทางการศึกษาที่แท้จริงความสำเร็จทางการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในภารกิจของชีวิต ซึ่งมีอยู่มากมายหลายด้านและจะต้องทำไปอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต แต่กล่าวได้ว่า การศึกษาเป็นภารกิจแรกและภารกิจสำคัญของชีวิตที่ทุกคนต้องทำ ทั้งเป็นบานสำคัญของภารกิจอื่น ๆ ของชีวิตต่อไป จึงกล่าวได้ว่าการศึกษาคือรากฐานของชีวิต !
กลยุทธ์ในการศึกษาเพื่อให้ประสบความสำเร็จหรือกลยุทธ ์ในการเรียนเพื่อให้ได้ความรู้นั้นคงไม่มีใครรู่ดีและสอนไว้ดียิ่งไปกว่าพระพุทธเจ้า เพราะกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ พระพุทธองค์ได้ทรงทดลองใช้และได้ประสบความสำเร็จมาด้วยพระองค์เอง พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงกระบวนการศึกษาหรือกระบวนการเรียนเพื่อให้ประสบความสำเร็จ หรือให้เกิดความรู้อย่างสมบูรณ์ไว้ว่า1. ต้องเรียนรู้ คือใช้ตาดูหูฟังให้มาก2. ต้องจดจำ สิ่งที่เรียนรู้นั้นให้ได้3. ต้องทบทวน สิ่งที่จดจำไว้นั้นให้คล่องปากขึ้นใจ4. ต้องคิดพิจารณา สิ่งที่เรียนมาและจำไว้นั้นอย่างถี่ถ้วน5. ทำความเข้าใจ สิ่งที่พิจารณานั้นอย่างแจ่มแจ้ง
ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในการเรียน
สิ่งที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเรียน
1.วางแผนชีวิตตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอมให้เรารู้จักตั้งเป้าหมายในการเรียน
2.ผูกมิตรกับหนังสือเรียน เมื่อมีหนังสืออยู่ในมือลองเปิดผ่านตาดูคร่าวๆก่อน
3.เวลาอ่านหนังสือพยายามใช้เทคนิคอ่านเร็ว
4.หลังจากเรียนเสร็จต้องหมั่นจดโน้ตย่อด้วยภาษาตนเอง
5.วิ่งหาครูอย่ากลัวครู พยายามนั่งหน้าหน่อยกันหลับ
และถ้าไม่เข้าใจก็ต้องถามอาจารย์
6.ลดเวลาคุยโทรศัพท์
7.ลดการตอบ E-mail
8.ลดหรืองดการดูโทรทัศน์
9.พยายามหาเวลาว่างไปออกกำลังกายทุกอาทิตย์เพราะจะช่วยผ่อนคลายได้
10.คิดถึงค่าเล่าเรียนที่คุณพ่อคุณแม่หามาจ่ายค่าเทอมให้เรา
11.ต้องรู้จักจัดการกับอารมณ์ตัวเอง
12.รู้จักรับฟังคำติชมจากคนอื่นบ้าง
1.วางแผนชีวิตตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอมให้เรารู้จักตั้งเป้าหมายในการเรียน
2.ผูกมิตรกับหนังสือเรียน เมื่อมีหนังสืออยู่ในมือลองเปิดผ่านตาดูคร่าวๆก่อน
3.เวลาอ่านหนังสือพยายามใช้เทคนิคอ่านเร็ว
4.หลังจากเรียนเสร็จต้องหมั่นจดโน้ตย่อด้วยภาษาตนเอง
5.วิ่งหาครูอย่ากลัวครู พยายามนั่งหน้าหน่อยกันหลับ
และถ้าไม่เข้าใจก็ต้องถามอาจารย์
6.ลดเวลาคุยโทรศัพท์
7.ลดการตอบ E-mail
8.ลดหรืองดการดูโทรทัศน์
9.พยายามหาเวลาว่างไปออกกำลังกายทุกอาทิตย์เพราะจะช่วยผ่อนคลายได้
10.คิดถึงค่าเล่าเรียนที่คุณพ่อคุณแม่หามาจ่ายค่าเทอมให้เรา
11.ต้องรู้จักจัดการกับอารมณ์ตัวเอง
12.รู้จักรับฟังคำติชมจากคนอื่นบ้าง
กลอนแด่แม่
น้ำทะเลแสนหยด ยังแพ้หนึ่งหยดน้ำนมแม่
" 365วันของแม่ "
สามร้อยหกสิบห้าวันนั้นของแม่
รักไม่แปรเปลี่ยนผันว่าวันไหน
รักของแม่มีให้ลูกทุกวันไป
จะหาใครรักเราเท่าแม่เอย
แม่เอาเสียงเพลงหวานมาขานกล่อม
แม่ยอมทอดอ้อมแขนแทนเขนย
เมื่อยเท่าไหร่แม่ทนได้ไม่ละเลย
แม่ไม่เคยทอดทิ้งนิ่งดูดาย
สำหรับแม่น้อยกว่านี้ได้ยังไง
คนเราที่เกิดมาทุกคนในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักคำว่า "แม่" เพราะแม่เป็นผู้ให้กำเนิด
เป็นผู้เลี้ยงเฝ้าดูแลเรามาตลอด เป็นผู้รักเรามากกว่าใคร ๆ ที่บอกว่ารักเรา ไม่ว่าลูกจะทำผิดขนาดไหนแม่ก็ยังให้อภัยแก่ลูกเสมอ บางครั้งลูกทำผิด แม่โกรธ ดุด่า ว่าลูก แต่แม่ก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายลูก
ความรักมีหลายรูปแบบ เช่น ความรักของหนุ่มสาว ความรักต่อเพื่อน ความรักต่อครู-อาจารย์ เป็นต้น
แต่ความรักเหล่านี้อาจจะลืมเลือนไปได้โดยง่าย เพราะมันไม่ใช่ความรักที่แท้จริง เปรียบไม่ได้กับความรักของแม่ที่มีต่อลูก ซึ่งมีแต่ให้ไม่เคยคิดที่จะได้ตอบแทน คุณของ "แม่" นับว่าเป็นคุณที่ไม่อาจจะตอบแทนได้ นับเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ กว่าที่แม่จะคลอดเรามาแม่ก็ต้องอุ้มท้องเรามานานนับ 10 เดือน โดยที่ไม่คิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการอยู่ในชีวิตประจำวัน พอถึงวันที่คลอด นับแต่วันที่คลอดแม่ก็เฝ้าดูแล เป็นอย่างดี
ไม่ให้ มด ยุง แมลงต่าง ๆ มากัดตัวลูก หาอาหารอย่างดีมาให้ทาน ไม่เคยเอาสิ่งที่ไม่ดีมาให้ลูกกิน
มาถึงทุกวันนี้แม่ก็ยังดูแลเราไม่เคยห่างสายตา เพราะแม่ยังกลัวว่า ลูกจะหลงผิดทำให้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม่ไม่คิดที่จะให้ลูกทำในสิ่งทดแทนคุณ เพราะแม่คือคนที่รักลูกที่แท้จริง เป็นผู้ที่คิดแต่จะให้ลูกโดยไม่คิดสิ่งตอบแทนที่ได้จากลูก แม่เป็นผู้ที่สั่งสอนลูกมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต แม่สอนแต่สิ่งที่ดี นับเป็นคุณ "ครู" คนแรกของลูก แม่อาจเป็นทั้ง แม่, เพื่อน และครู ในเวลาเดียวกันได้ ในยามที่ลูกทุกข์แม่ก็คอยปลอบ ในยามที่ลูกผิดแม่ก็คอยสอน ตักเตือน ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด ในยามที่ลูกป่วยไข้ก็มีเพียงแม่เท่านั้นที่เฝ้าดูแลไม่ห่าง ไม่เหมือนคนอื่น ถ้าเราป่วยเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ เพื่อนคนที่เคยบอกว่ารักเรา เขาอาจจะไม่กล้ามาเยี่ยม เพราะเขากลัวโรคร้ายนั้นจะติดเขา แต่ผุ้เป็นแม่ไม่ว่าโรคนั้นจะร้ายสักเพียงใดก็ไม่คิดที่จะทอดทิ้ง ให้ลูกอยู่โดดเดี่ยวมีแต่จะเป็นห่วงลูกเพิ่มขึ้น ลูกยิ่งป่วยหรือเจ็บมากขึ้นเท่าใดผู้เป็นแม่ก็ยิ่งร้อนใจ เพิ่มขึ้นหลายเท่า แม่ยอมขายที่นา สวน ไร่ เพื่อให้ได้เงินมารักษาลูก เงินไม่พอก็ไปขอยืมเขา แม้ว่าดอกเบี้ยจะแพงขอเพียงเพื่อได้รักษาให้ลูกได้หาย และมีความสุข แม่ทนทุกข์ยากและลำบาก ในการทำงาน ตากแดดตัวดำเพื่อให้ลูกชาย หญิง ได้เรียนหนังสือมีความรู้สูงๆ เพื่อไม่ต้องลำบาก เหมือนแม่ แม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาใช้ในครอบครัว และเงินที่ได้มาจากแรงกายของแม่ ส่วนใหญ่ตกไปอยู่ที่ลูก ไม่ว่าลูกจะขอเท่าไรแม่ก็หามาให้ได้เสมอ ลูกสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลไม่ได้ก็ดิ้นรน ให้ลูกได้เรียนโรงเรียนเอกชน แม้ค่าเล่าเรียนเป็นหมื่นเป็นแสนก็ยอม เพียงแต่ขอให้ลูกได้เรียน แม่ก็มีความสุข แต่แม่ไม่เคยรู้เลยว่าลูกมาโรงเรียนแล้วเป็นอย่างไร แม่คิดเพียงว่าลูกไปโรงเรียน คงตั้งใจเรียน และลูกคงเหนื่อย เมื่อลูกกลับถึงบ้านตอนเย็นแม่จะไม่ให้ลูกทำงานบ้านอีก แต่ลูกบางคนมาโรงเรียนแล้วไม่ได้ตั้งใจเรียนสักเท่าใดเลย แม่ต้องทนลำบากเพื่อให้ลูกได้เรียน และเพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของแม่เราต้องตั้งใจเรียนให้สมกับที่แม่ตั้งความหวังเอาไว้ อย่าให้แม่ผิดหวัง แม่แนะนำตักเตือนก็ต้องเชื่อฟังเพราะสิ่งที่แม่พูดเป็นสิ่งที่ดีไม่ผิด ปัจจุบันนี้ไม่ว่าแม่พูดอะไรผมจึงไม่เคยคิดที่จะขัดใจแม่ เพราะผมรู้ดีว่าสิ่งที่แม่แนะนำตักเตือน เพราะแม่หวังดี ไม่มีแม่คนไหนที่จะคิดร้ายต่อลูก ลูกมีกี่คนแม่สามารถเลี้ยงดูได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นเราผู้เป็นลูกมีแม่เพียงคนเดียวเราต้องดูแลท่านให้เหมือนที่ท่านเคยดูแลเรามา และหาสิ่งดีๆมาตอบแทนโดยการตั้งใจเรียนเท่านี้แม่ก็ดีใจมากแล้ว ในยามที่แม่แก่ชรา ฉันรู้ดีว่าคนแก่ชราต้องการอยู่ใกล้ลูกๆ หลานๆ ดังนั้นเราก็ต้องเอาใจใส่แม่ของเราให้มากที่สุด
เป็นผู้เลี้ยงเฝ้าดูแลเรามาตลอด เป็นผู้รักเรามากกว่าใคร ๆ ที่บอกว่ารักเรา ไม่ว่าลูกจะทำผิดขนาดไหนแม่ก็ยังให้อภัยแก่ลูกเสมอ บางครั้งลูกทำผิด แม่โกรธ ดุด่า ว่าลูก แต่แม่ก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายลูก
ความรักมีหลายรูปแบบ เช่น ความรักของหนุ่มสาว ความรักต่อเพื่อน ความรักต่อครู-อาจารย์ เป็นต้น
แต่ความรักเหล่านี้อาจจะลืมเลือนไปได้โดยง่าย เพราะมันไม่ใช่ความรักที่แท้จริง เปรียบไม่ได้กับความรักของแม่ที่มีต่อลูก ซึ่งมีแต่ให้ไม่เคยคิดที่จะได้ตอบแทน คุณของ "แม่" นับว่าเป็นคุณที่ไม่อาจจะตอบแทนได้ นับเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ กว่าที่แม่จะคลอดเรามาแม่ก็ต้องอุ้มท้องเรามานานนับ 10 เดือน โดยที่ไม่คิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการอยู่ในชีวิตประจำวัน พอถึงวันที่คลอด นับแต่วันที่คลอดแม่ก็เฝ้าดูแล เป็นอย่างดี
ไม่ให้ มด ยุง แมลงต่าง ๆ มากัดตัวลูก หาอาหารอย่างดีมาให้ทาน ไม่เคยเอาสิ่งที่ไม่ดีมาให้ลูกกิน
มาถึงทุกวันนี้แม่ก็ยังดูแลเราไม่เคยห่างสายตา เพราะแม่ยังกลัวว่า ลูกจะหลงผิดทำให้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม่ไม่คิดที่จะให้ลูกทำในสิ่งทดแทนคุณ เพราะแม่คือคนที่รักลูกที่แท้จริง เป็นผู้ที่คิดแต่จะให้ลูกโดยไม่คิดสิ่งตอบแทนที่ได้จากลูก แม่เป็นผู้ที่สั่งสอนลูกมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต แม่สอนแต่สิ่งที่ดี นับเป็นคุณ "ครู" คนแรกของลูก แม่อาจเป็นทั้ง แม่, เพื่อน และครู ในเวลาเดียวกันได้ ในยามที่ลูกทุกข์แม่ก็คอยปลอบ ในยามที่ลูกผิดแม่ก็คอยสอน ตักเตือน ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด ในยามที่ลูกป่วยไข้ก็มีเพียงแม่เท่านั้นที่เฝ้าดูแลไม่ห่าง ไม่เหมือนคนอื่น ถ้าเราป่วยเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ เพื่อนคนที่เคยบอกว่ารักเรา เขาอาจจะไม่กล้ามาเยี่ยม เพราะเขากลัวโรคร้ายนั้นจะติดเขา แต่ผุ้เป็นแม่ไม่ว่าโรคนั้นจะร้ายสักเพียงใดก็ไม่คิดที่จะทอดทิ้ง ให้ลูกอยู่โดดเดี่ยวมีแต่จะเป็นห่วงลูกเพิ่มขึ้น ลูกยิ่งป่วยหรือเจ็บมากขึ้นเท่าใดผู้เป็นแม่ก็ยิ่งร้อนใจ เพิ่มขึ้นหลายเท่า แม่ยอมขายที่นา สวน ไร่ เพื่อให้ได้เงินมารักษาลูก เงินไม่พอก็ไปขอยืมเขา แม้ว่าดอกเบี้ยจะแพงขอเพียงเพื่อได้รักษาให้ลูกได้หาย และมีความสุข แม่ทนทุกข์ยากและลำบาก ในการทำงาน ตากแดดตัวดำเพื่อให้ลูกชาย หญิง ได้เรียนหนังสือมีความรู้สูงๆ เพื่อไม่ต้องลำบาก เหมือนแม่ แม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาใช้ในครอบครัว และเงินที่ได้มาจากแรงกายของแม่ ส่วนใหญ่ตกไปอยู่ที่ลูก ไม่ว่าลูกจะขอเท่าไรแม่ก็หามาให้ได้เสมอ ลูกสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลไม่ได้ก็ดิ้นรน ให้ลูกได้เรียนโรงเรียนเอกชน แม้ค่าเล่าเรียนเป็นหมื่นเป็นแสนก็ยอม เพียงแต่ขอให้ลูกได้เรียน แม่ก็มีความสุข แต่แม่ไม่เคยรู้เลยว่าลูกมาโรงเรียนแล้วเป็นอย่างไร แม่คิดเพียงว่าลูกไปโรงเรียน คงตั้งใจเรียน และลูกคงเหนื่อย เมื่อลูกกลับถึงบ้านตอนเย็นแม่จะไม่ให้ลูกทำงานบ้านอีก แต่ลูกบางคนมาโรงเรียนแล้วไม่ได้ตั้งใจเรียนสักเท่าใดเลย แม่ต้องทนลำบากเพื่อให้ลูกได้เรียน และเพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของแม่เราต้องตั้งใจเรียนให้สมกับที่แม่ตั้งความหวังเอาไว้ อย่าให้แม่ผิดหวัง แม่แนะนำตักเตือนก็ต้องเชื่อฟังเพราะสิ่งที่แม่พูดเป็นสิ่งที่ดีไม่ผิด ปัจจุบันนี้ไม่ว่าแม่พูดอะไรผมจึงไม่เคยคิดที่จะขัดใจแม่ เพราะผมรู้ดีว่าสิ่งที่แม่แนะนำตักเตือน เพราะแม่หวังดี ไม่มีแม่คนไหนที่จะคิดร้ายต่อลูก ลูกมีกี่คนแม่สามารถเลี้ยงดูได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นเราผู้เป็นลูกมีแม่เพียงคนเดียวเราต้องดูแลท่านให้เหมือนที่ท่านเคยดูแลเรามา และหาสิ่งดีๆมาตอบแทนโดยการตั้งใจเรียนเท่านี้แม่ก็ดีใจมากแล้ว ในยามที่แม่แก่ชรา ฉันรู้ดีว่าคนแก่ชราต้องการอยู่ใกล้ลูกๆ หลานๆ ดังนั้นเราก็ต้องเอาใจใส่แม่ของเราให้มากที่สุด
สำรับตัวฉันเองก็มีทั้งที่ทำดีและไม่ดีต่อจากนี้ทุกวินาทีจะต้องดีที่สุด
เปิดตัวคนน่ารัก
ชื่อ ศศิวิมล จิตกุศล ชื่อเล่น มิ้น
เพื่อนเรียก หนูม็อบ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 เลขที่ 7
โรงเรียนอาเวมารีอา อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
ชอบมากมาย ของฟรี
ปลื้มสุดๆๆ หมีพูห์
ติดต่อได้ที่ 1112
รักมาก มู่หลานกับอังเปา
เพื่อนที่ดีแบบจำใจคบ แนน สั้นๆ อีเร็ทคุง
ผู้ที่แนะนำ ครูวีระชน ไพสาทย์
ความรู้สึก ก็ดีที่ได้ทำมา ทำมาหลายรอบจนนับไม่ถ้วน หวังว่าต่อไปบล็กคงจะไม่ถูกล็อคอีก
เพื่อนเรียก หนูม็อบ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 เลขที่ 7
โรงเรียนอาเวมารีอา อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
ชอบมากมาย ของฟรี
ปลื้มสุดๆๆ หมีพูห์
ติดต่อได้ที่ 1112
รักมาก มู่หลานกับอังเปา
เพื่อนที่ดีแบบจำใจคบ แนน สั้นๆ อีเร็ทคุง
ผู้ที่แนะนำ ครูวีระชน ไพสาทย์
ความรู้สึก ก็ดีที่ได้ทำมา ทำมาหลายรอบจนนับไม่ถ้วน หวังว่าต่อไปบล็กคงจะไม่ถูกล็อคอีก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)